เหล็กชุบกัลวาไนซ์ แบบจุ่มร้อน HDG
Hot-Dip Galvanized Steel
round tube with smooth ends
flat iron box
square steel box
C body steel/C body
C-Channel gutter steel
Angle Steel Angel Bar
Rebar/Rebar
เหล็กชุบกัลวาไนซ์ Hot Dip Galvanized
อ่านเป็นภาษาไทยว่า เหล็กฮอตดิบกัลวาไนซ์ มีชื่อเรียกอย่างย่อว่า เหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG เป็นกระบวนการผลิตเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์กันสนิม โดยการนำเหล็กรูปพรรณไป ชุบ/พ่น/หรือทากัลวาไนซ์ เพื่อป้องกันสนิม โดยนำเหล็กรูปพรรณมาลงบ่อชุบสังกะสี 99% ที่อุณหภูมิ 450°C เหมาะสำหรับงานที่ต้องการ การป้องกันสนิมสูง โดยเหล็กกัลวาไนซ์แบบ Hot-Dip Galvanized จะมีความหนาของชั้นเคลือบกัลวาไนซ์ตั้งแต่ 50 ถึง 250 ไมครอนขึ้นไป เหล็กกัลวาไนซ์ Hot Dip Galvanized หรือ เรียกอย่างย่อว่า HDG นิยมนำไปใช้งาน ท่อเดินน้ำมันทางทะเล งานเขื่อน งานเสาไฟฟ้า งานเสาสัญญาณโทรศัพท์ งานโครงสร้างแผงโซล่าเซลล์ งานตะแกรงเหล็กกัลวาไนซ์ งานเกรทติ้งกัลวาไนซ์ งานแผงวางท่อ งานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการชิ้นงานที่ทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี เป็นต้น
กระบวนการผลิตตามมาตรฐาน ของเหล็กชุบกัลวาไนซ์ Hot Dip Galvanized มีดังนี้
1. การเตรียมงานเหล็กและสภาพก่อนเข้ากระบวนการชุบ (Rinsing)
2. การทำความสะอาดผิวเหล็ก (Blast)
3. การชุบน้ำยาประสาน (Fluxing)
4. การชุบกัลวาไนซ์ในบ่อชุบ
5. การเจียร ตกแต่งผิวชิ้นงาน (Finishing)
6. การตรวจสอบความหนาของชั้นเคลือบก่อนส่งมอบงาน (Inspection and Assurance)
ข้อแนะนำการจัดเก็บรักษาสินค้าเหล็กชุบกัลวาไนซ์
-
ควรมีผ้าคลุมและไม่ให้แช่น้ำขังเป็นเวลานานเพื่อคุณภาพของสินค้า กรณีมีละอองเหล็กที่เกิดจากการตัด ควรระมัดระวังไม่ให้ละอองมาเกาะที่ผิวเหล็กเพราะอาจจะทำให้เกิดจุดสนิมและลามไปถึงพื้นผิวโดยทั่วได้
-
เหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG ไม่ควรโดนกรดชนิดรุนแรง เช่น โซดาไฟ หรือ การนำสารกัดกร่อนต่างๆมาเทราด เพราะจะเป็นการเร่งการทำลายผิวชั้นเคลือบกัลวาไนซ์ ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
ค่ามาตรฐานของชั้นเคลือบเหล็กชุบกัลวาไนซ์ Hot Dip Galvanized
-
ค่าความหนาของชั้นเคลือบกัลวาไนซ์ จะเรียกว่า ค่าไมครอน (Micron) ซึ่งขึ้นอยู่กับความหนาของเหล็กที่นำมาชุบ
-
ความหนาของชั้นเคลือบสังกะสี (microns) ที่ระบุไว้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากลดังนี้ ISO 1461, ASTM a123, ASTM a153
-
โดยมีมาตรฐานตามตารางเหล็กชุบกัลวาไนซ์ HDG - ASTM a123 ดังนี้